{[['']]}
ดูหนังออนไลน์
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อแม่ของ ซังวู เด็กน้อยวัย 7 ปี เจ้าของเรื่องราวชีวิตในภาพยนตร์เรื่องนี้ ถูกพาไปฝากยังบ้านของคุณยายที่ต่างจังหวัด ซังวู รู้ว่านี่คือของเวลาที่ลำบากที่สุด นับตั้งแต่แม่ของเขาแยกทางกับพ่อของเขาตั้งแต่เขายังเล็ก มันไม่ง่ายที่จะหาเลี้ยงลูกชายเพียงลำพังในเมืองใหญ่ ซึ่งดูเหมือนว่า ซังวู จะเข้าใจและพร้อมที่จะดูแลตัวเองในขณะที่แม่ไปทำงาน
แต่ดูเหมือนชีวิตในเมืองชนบท มันดานี ช่างน่าเบื่อสำหรับเด็กที่เติบโตจากเมืองใหญ่อย่าง ซังวู มันไม่มีอะไรจะให้เขาเล่นสนุกด้วย ยายของเขาเป็นใบ้ เขาปฏิเสธทุกสิ่งที่ยายของเขาหาให้ เขาเรียกร้องที่จะกินแฮมแทนกิมจิที่ยายเตรียมไว้ เขาร้องหาโค้กแทนน้ำที่ยายริน ที่นี่ไม่มีโทรศัพท์ แต่มีเส้นทางชวนขนลุกเวลากลางคืนของทางไปห้องน้ำที่อยู่นอกหลังคาบ้าน เขาไม่มีเพื่อน ไม่มีของเล่น สิ่งเดียวที่พอจะทำให้เขาพ้นจากประสบการณ์ต่างเมืองอันน่าหดหู่นี้คือ เครื่องเล่นเกม และโปสการ์ดที่เขาซึ้อมาจากกรุงโซล
แต่แล้วเย็นวันหนึ่ง เมื่อแบตเตอรี่ในเกมส์สุดรักหมดลง เขาขอให้ยายซึ้อแบตเตอร์รี่ใส่เกมส์ให้เขาใหม่ แต่เธอตอบเขาด้วยภาษาใบ้สั้นๆ ว่า เธอเสียใจ เขาได้แต่คิดว่ายายคงไม่มีเงินสำหรับซื้อแบตเตอรี่ให้ เขาพยายามตื้อยายทุกวิถีทาง แต่ก็ไร้ประโยชน์ จนกระทั่งเขาตัดสินใจที่จะขโมยปิ่นปักผมของยายและเอาเงินที่ได้ไปซื้อแบตเตอรี่ใหม่
เขาขโมยปิ่นในขณะที่ยายหลับ แล้ววิ่งออกไปตามทางของหมู่บ้าน จนกระทั่งเจอกับร้านขายของเล็กๆ แต่ที่นั่นไม่มีแบตเตอรี่แบบที่ใส่กับเกมของเขาได้ ทั้งขมขื่น ผิดหวัง และหลงทาง โชคดีที่ลุงแก่ๆ คนหนึ่งถีบจักรยานพาเขามาส่งที่บ้านคุณยาย ตอนที่ยายเดินออกมารับ ซังวู เห็นยายใช้ช้อนทองเหลืองม้วนผมยายไว้แทนที่ปิ่นที่เขาขโมยมา แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้คิดว่าเขาขโมยมันไป ซังวูจึงซ่อนมันไว้ด้านหลังและเดินตามเธอเข้าไปในบ้าน
บ่ายวันหนึ่งหลังจากที่ใช้เวลายาวนานที่แสนน่าเบื่อหมดไปกับการส่งสัญญาณมือ เพื่อบอกกับยายว่าเขาอยากกินไก่ทอด ยายหอบผักกำใหญ่ไปที่ตลาดใกล้ๆ ทันที เพื่อหาทางซื้อไก่มาให้เขาท่ามกลางลมพายุ ในที่สุดเธอก็กลับมาพร้อมกับไก่สำหรับซังวู ด้วยความยากลำบากที่เธอพยายามทำให้แก่หลาน และความแตกต่างของชีวิตในสังคม เมืองและสังคมชนบท สิ่งที่เธอหามาให้แก่หลานเป็นเพียงไก่ทอด ในขณะที่สิ่งที่เขาต้องการจริงๆ คือไก่ทอดจาก Kentucky Fried Chicken เขาไม่แตะต้องไก่จานนั้นจนกระทั่งกลางดึกของคืนวันนั้น ความหิวทำให้เขาออกมากินมันและเขาก็ร้องไห้
วันหนึ่งเมื่อยายของเขาล้มป่วย ซังวูพยายามหาทางทำให้ยายของเขารู้สึกอุ่น ผ้าทุกชิ้น อาหารร้อนๆ และตัดสินใจคืนปิ่นปักผมที่ขโมยมาคืนให้กับยาย ขณะเดียวกันเขาหันไปเจอกับ ชู เด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังไถลงมาจากเนินเขา หนีกระทิงดุที่กำลังตามขวิดเขาอยู่ พร้อมกับเด็กผู้หญิงน่ารักที่ชื่อ ฮียุน
หลายวันต่อมา เมื่อยายของเขาหายดี เขาชวนยายของเขาออกไปขายผักที่ตลาด ขายถูกๆ ด้วยเงินที่ขายผักได้ เธอซื้อรองเท้าผ้าใบคู่ใหม่ให้ซังวู พาเขาไปทานอาหารที่ภัตตาคารอาหารจีน สั่งก๋วยเตี๋ยวให้เขา ในขณะที่เธอกินเพียงของกินเล่น และชาเขียว จากนั้นเธอส่งช็อกโกแล็ต และท๊อฟฟี่ให้กับเขา และส่งเขาขึ้นรถเมล์กลับ เขาเก็บขนมไว้ให้ยายหนึ่งอัน และยืนคอยยายอยู่ที่ป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้าน มันผ่านไปนาน กว่าที่เขาจะเห็นยายเดินกลับมา ทั้งถือของ และเปียกชุ่ม นั่นทำให้เขาคิดได้ว่ายายส่งเขาขึ้นรถกลับบ้านคนเดียวเพราะเธอไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่ารถเมล์สำหรับสองคน เขาตรงเข้าไปช่วยยายถือของทันที และเดินกลับบ้านพร้อมยายทั้งน้ำตา พร้อมทั้งไม่ลืมที่จะใส่ขนมที่เขาเก็บไว้ลงไปในถุงของยาย
ซังวู ตามหา ฮียุน โดยปีนขึ้นไปบนยอดเขา แต่เขาเจอแต่ ชู และสุนัขของเขา ด้วยความอิจฉาที่ชูสนิทสนมกับฮียุนมากกว่า ทำให้เขาหงุดหงิดและเข้าไปโกหกชูว่าวัวกระทิงตัวเดิมกำลังกลับมาทางเขา ชูรีบวิ่งหนีสุดชีวิตและตกลงมาจากเขาพร้อมทั้งแผลเจ็บๆ เมื่อเผชิญหน้ากับชู ซังวูรู้สึกผิดจึงส่งส่งสัญญาณมือแทนคำขอโทษ แล้วรีบวิ่งหนีไป และนั่นทำให้ซังวูเจอฮียุนโดยบังเอิญ และสิ่งที่ฮียุนบอกกับเขาว่าเธอก็ตามหาเขาเหมือนกันทำให้ซังวูรู้สึกมีความสุขทันที
ด้วยความรัก ความห่วงใย อย่างบริสุทธิ์ใจของยายที่มีให้ต่อหลาน เพื่อนใหม่ต่างถิ่น ระหว่างที่ทุกอย่างกำลังจะเข้าที่เข้าทาง เขาแพ็คของเล่นใส่รถลาก ยายของเขาช่วยเอากระดาษห่อเกมของเขา และวางไว้บนกองของเล่น เขาเดินออกมาจากบ้านใส่รองเท้าคู่เก่า มองไปที่ฮียุน และแลกของเล่นทั้งหมดของเขากับตุ๊กตาที่ฮียุนถืออยู่ เขาลากรถกลับพร้อมทั้งอุ้มตุ๊กตาไว้ในมือ
ซังวูนึกสนุกนั่งบนรถลากบนทางชัน เมื่อรถไหลตกข้างทาง ทำให้เท้าของเขาเจ็บมาก ในขณะที่เขาพยายามหาอะไรมาเช็ดที่หัวเข่า มือของเขากับเจอกับบางอย่างที่หุ้มอยู่บนเครื่องเกมที่ยายห่อไว้ เงิน 1,000 วอนพับครึ่ง! นั่นไม่อาจทำให้ซังวูกลั้นน้ำตา และร้องไห้เสียงดังออกมา เมื่อซังวูกลับเห็นยายยืนรออยู่ โดยมีจดหมายจากแม่ของซังวูในมือ บอกว่าถึงเวลาที่ซังวูต้องกลับแล้ว
คืนนั้นเขาพยายามสอนให้ยายที่ไม่เคยรู้หนังสือเขียนจดหมายถึงเขา แน่นอนว่ายายไม่สามารถแม้แต่จะเขียนประโยคง่ายๆ อย่าง ฉันป่วย หรือ คิดถึง บนความหมดหวังเขาบอกกับยายทั้งน้ำตาว่า "ถ้ายายป่วย แค่ส่งโปสการ์ดเปล่าๆ ให้เขา เขาจะได้รู้" กลางดึกคืนนั้น ท่ามกลางแสงสลัว ซังวูกำลังเขียนบางอย่างอยู่
และวันที่ยายหลานต้องจากกันก็มาถึง ซังวูส่งของบางอย่างให้กับยาย และรีบวิ่งขึ้นรถ และไม่เหลียวหลังกลับไป และนาทีสุดท้ายเมื่อรถออกตัว เขาก็หันกลับมาทำสัญญาณมือว่า เสียใจ ด้วยใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยน้ำตา นั่นทำให้ยายไม่อาจละสายตามองไปที่รถจนสุดสายตา และบนมือของเธอถือโปสการ์ด 5 ใบ ทั้งหมดเขียนชื่อและที่อยู่ของซังวู และในช่องผู้ส่งเขาเขียนว่า จากยาย เขาวาดภาพ ยายที่กำลังป่วย ซึ่งบรรยายถึงยายกำลังป่วย หรือ คิดถึง ภูมิปัญญาแห่งชีวิตและความผูกพันอันเป็นประสบการณ์ล้ำค่า ที่ความแตกต่างของสังคมไม่อาจพังทลาย ความทรงจำครั้งสำคัญจะคงอยู่กับ ซังวู ตลอดไป
สำรอง
แสดงความคิดเห็น